บทเรียนจาก นายกสมาคมกอล์ฟสตรีฯ
บทเรียนจาก นายกสมาคมกอล์ฟสตรีฯ
ความจริงต้องเขียนถึง กอล์ฟ ในกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่18 จาการ์ตา-บาเลมบังเกมส์ 2018 นะครับ
แต่ต้องส่งต้นฉบับ ก่อนการแข่งขัน ซึ่งป่านนี้ ท่านผู้อ่านคงทราบผลแล้วว่า ประสบความสำเร็จหรือไม่ อย่างไร
ได้เหรียญเอเชียนเกมส์ มีเงินรางวัลอัดฉีดนะครับ อัตราใหม่ เหรียญทอง 2 ล้านบาท จาก กกท.
นักกอล์ฟที่ไปแข่งมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ โดยกฎกติกาเดิม ต้องเป็นนักกอล์ฟอเมเจอร์ ดังจะเห็นนักกอล์ฟเยาวชนระดับชาติหลายคน ยังไม่เทิร์นโปร ก็เพื่อจะติดทีมชาติเอเชียนเกมส์ครั้งนี้แหละ ( กอล์ฟกีฬาโอลิมปิก โปรแข่งได้ โดยมีระบบโควตาแรงกิ้งโลกเป็นตัวกำหนดด้วยซ้ำ)
กฎกติกาสากลกอล์ฟ R&A ระบุคุณสมบัติ นักกอล์ฟสมัครเล่นว่า ห้ามรับเงินรางวัล รับได้แค่โทรฟี่เกียรติยศ เพื่อแยกให้ชัดเจนกับโปรกอล์ฟ ที่ล่าเงินรางวัลสถานเดียว
ทีนี้ ถ้าเป็นเงินอัดฉีดล่ะ นักกอล์ฟทีมชาติ จะรับได้ไหม?
กติกานั้น รับไม่ได้
แต่ก็สามารถรับกันมาเสมอแหละครับ ตั้งแต่กีฬาซีเกมส์หลายครั้งที่ผ่านมาโน่น ตราบใดที่ สมาคมคมกอล์ฟแห่งประเทศไทย จะหลับตาข้างหนึ่ง ไม่ตีประเด็นว่า เป็นเงินรางวัลจากการเล่นกอล์ฟ ซึ่งพลิกแพลงได้เยอะไป
แต่ก็เคยมีเป็นเรื่องเป็นราวนะครับ ยี่สิบกว่าปีมาแล้ว สมัยที่ สมาคมกอล์ฟสตรีฯยังเป็นองค์กรดูแลนักกีฬากอล์ฟทีมชาติหญิง ไม่ได้รวมขึ้นอยู่กับ สมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทย แบบในปัจจุบัน
นักกีฬาได้เหรียญทองซีเกมส์มา จะไปรับเงินรางวัลจากกกท. ถูกวีโต้ โดยสมาคมกอล์ฟสตรีฯ ว่าทำผิดกฏกติกาสากล R&A
ถ้ารับก็จะเสียสิทธิ์ความเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่น คือ ไม่สามารถจะติดทีมชาติในรายการแข่งขันอื่นๆอีกต่อไป
กางกฎออกมาเป๊ะๆเลย เรียกว่า ศักดิ์ศรี และการอยู่ในกฎสำคัญกว่าเงิน ต้องทำให้ถูกต้อง
ปรากฏว่า ผู้ปกครองนักกอล์ฟเยาวชนที่ทำเหรียญทองได้ เรียกร้องว่า เป็นสิทธิพึงได้ ครั้งนั้น เผอิญผมเข้าไปคลุกคลีด้วย เพราะลูกสาวตีกอล์ฟเยาวชน
ผมเห็นใจผู้ปกครอง ที่เขาใช้เงินทุ่มเทกับการทำให้ลูกสาวเป็นทีมชาติ การได้เงินรางวัล เหรียญทองซีเกมส์ มันไม่ได้สักผีกริ้นเท่าไหร่กับ เงินที่เขาทุ่มเทให้กับลูกสาว กว่าจะถึงวันทำผลงานทีมชาติ
จ่ายไปเป็นร้อยเท่ามั้ง..แต่การได้เช่นนั้น เป็นรางวัลที่ชื่นใจ สมใจ ของพ่อแม่
ก็คิดดูเถิดครับ นักกีฬาประเภทอื่นๆ ได้รับเช็คเงินสดกันโครมๆ จากมือนายกรัฐมนตรีในงานฉลองที่ทำเนียบรัฐบาล มีนักกอล์ฟเท่านั้นที่งุดๆ รับใบเกียรติบัตร ก็ย่อมรู้สึกเป็นธรรมดา
ตอนนั้น เขียนกรีดคมปากกาใส่ สมาคมกอล์ฟสตรีฯ หนักเลย ทั้งในสยามกีฬา ทั้งใน กอล์ฟไทม์ นี่ด้วยแหละ
เด็กเยาวชนกอล์ฟที่ติดทีมชาติเป็นทิวแถวน่ะ พ่อแม่เอาเงินปูให้เดินทั้งนั้น มาจากครอบครัวมีอันจะกิน ก็อาจเฉยๆ แต่พ่อแม่ชนชั้นกลางที่ก้มหน้าก้มตาส่งเสียลูกเพื่อให้เป็นนักกอล์ฟที่เก่ง ชาติก็ทีมชาติ ก็มีไม่น้อย ..มันคือการกัดฟัน
คุณเธอ ผู้รากมากดี สมาคมกอล์ฟสตรีฯ ไม่ใช่พ่อไม่ใช่แม่นักกอล์ฟนี่หว่า บริหารอยู่แต่บนหอคอยงาช้าง ทำไมไม่เห็นใจกันบ้าง หรือว่า เป็นความผิด ไม่รวยก็อย่าริส่งลูก เอาดีทางกีฬากอล์ฟ
กฎกอล์ฟ R&A ฝรั่งเกาะอังกฤษกำหนดเป็นร้อยปีโน่น มันเรื่องของกอล์ฟบ้านเขาที่ต้องจำแนกชัดเจน กอล์ฟบ้านเรา ก็มีเงื่อนไขที่แตกต่าง ในบางครั้ง หลับตาข้างนึงจะเป็นไรไป เกียรติยศไม่หล่นร่วงหรอกน่า
ฮูย..แรงครับ ตอนนั้น จน ผมน่าจะถูก สมาคมกอล์ฟสตรีฯกาหัวไว้ (ซึ่งก็น่าอยู่หรอกครับ..555)
อย่างไรก็ตาม นักกอล์ฟก็ได้เงินอัดฉีดจาก กกท. หลังจากให้เรื่องซาเงียบไป โดยสมาคมกอล์ฟสตรีฯทำเรื่องไปยังกกท. รับเงินแทน แล้วก็มอบให้ นักกีฬาเป็นทุนการศึกษา ผู้ปกครองมารับไป
ที่จำได้เป็นแม่นมั่นก็คือ ..ในเวลาไล่ๆกันนั้น ลูกสาวผม ถูกโปรสอน คะยั้นคะยอให้ไปแข่งคัดตัวทีมชาติรายการหนึ่ง
ผมก็บอกว่า ลูกผมไม่ติดหรอก ประการแรกคือ มันตีกอล์ฟไม่เก่งเท่าเพื่อนที่ติดทีมชาติประจำ แพ้ยันเต ใจมันไม่ร้อยเต็มกับเกมกอล์ฟ ประการที่สองคือ สมาคมกอล์ฟสตรีฯเห็นนามสกุล ก็กาชื่อทิ้งแล้ว..พ่อมันปากหมา กัดเขาน้ำลายฟ่อดอยู่
ไปให้ลูกสาวผม รู้สึกกดดันทำไม ทั้งเกมกอล์ฟ ทั้งบุคลากรของสมาคมกอล์ฟสตรีฯ ที่ต้องจ้องมองเพ่งให้ลูกสาวผมละลายไป.เธอไม่ด่า พ่อเธอก็ด่า แบบนิทานอิสปเปี๊ยบเลย
โปรบอกว่า..นี่แหละคือโอกาสแห่งการฝึกเกมกอล์ฟและพลังใจที่หาไม่ได้อีกแล้ว คิดอย่างผม ชีวิตก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่ทีออฟหลุมแรก..แพ้ก็ช่างมันปะไร เท่าทุน
แต่ถ้าชนะล่ะ ก็จะพิสูจน์อะไรได้มากมายนะ
ที่สุด ลูกสาวผมก็ไปแข่งคัดตัวทีมชาติ เพื่อโปร
เธอแพ้เพื่อนเยาวชนทีมชาติสองคน แต่เธอชนะนักกอล์ฟสตรีมือดีของสมาคมกอล์ฟสตรีที่ติดทีมชาติตลอดมาเป็นสิบปี
ไม่ใช่เก่งกว่าหรอกครับ แต่มันใช้จิตวิทยา ไปเรียกเขาว่า “ป้า”ตั้งแต่หลุมแรก คุณก็หงุดหงิดซิ่ ตีหลุด ต่ำกว่ามาตรฐานตัวเอง แพ้ลูกสาวผมสโตรคเดียว เมื่อจบหลุมสุดท้าย
ผมน่ะดีใจ แต่ผมก็เสียวสันหลัง เพราะวันนั้น คุณ เรวดี ต.สุวรรณ นายกสมาคมกอล์ฟสตรีฯ ไปดูถึงสนาม ผมเดินเข้าไปยกมือไหว้ กะงุดหนี ราวกับจำเลย ไม่กล้าสู้หน้าโจทย์
หนีไม่ออกเพราะ คุณเรวดี รู้ว่าผมเป็นใคร (แสดงว่า อ่านข้อเขียนของผมตลอด)
… คุณยอดชาย ลูกสาวหน้าตาน่ารักนะ เก่งนี่ ยินดีด้วยที่ติดทีมชาติครั้งแรก.. คุณเรวดี ยิ้มละไมให้ แล้วพูดต่อ..คุณก็ทำหน้าที่ของคุณดี ฉันเข้าใจ แต่ฉันก็ทำหน้าที่ของฉัน ให้มีบรรทัดฐาน ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ ซึ่งก็ดีแล้ว
ผมเหมือนตัวละลาย เล็กลงตรงนั้น ยกมือไหว้ นายกสมาคมกอล์ฟสตรีฯ ไม่รู้อีกกี่ครั้ง ด้วยความเคารพ ด้วยเต็มเปี่ยมศรัทธาจริงๆ
ผมเสียอีกที่ ใจเล็ก กว่าท่านเยอะ
ช่วงที่ลูกสาวผมได้ติดทีมชาติ ก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากสมาคมกอล์ฟสตรีฯ ซ้อมกับโปรสมาคมฯ ออกรอบ เก็บตัว ได้ไปฮ่องกง แข่งรายการ ควีนสิริกิติ์ด้วย เป็นประสบการณ์และความทรงจำอันยอดเยี่ยมกับ ครั้งหนึ่งในชีวิตของเธอ
ลูกสาวผมไม่ได้เดินทางสายกอล์ฟ เหมือนเพื่อนรุ่นนั้นของเธอ (เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นโปรแข่งในญี่ปุ่นอยู่) เธอเลือกทางเดินสายอาชีพอื่น โดยมีกีฬากอล์ฟเป็นองค์ประกอบคุณสมบัติและคุณภาพของตน ที่ทำให้มีความก้าวหน้าดี
อ้อ..โปรกอล์ฟ ที่สอนลูกสาวผม ( ไม่คิดค่าสอน ด้วยนับถือดั่งราวญาติ) และเป็นคนที่ผลักดันให้ลูกสาวผมไปคัดตัวทีมชาติ ครั้งหนึ่งในชีวิตคือ โปรนิด สิทธิศักดิ์ นันทเทอม ครับ
น่าจะเป็นคนเดียวมั้ง ที่เชื่อว่า ลูกสาวผม ลูกศิษย์เขา เก่งพอที่จะติดทีมชาติได้ ส่วนผม ก็ได้รับบทเรียนไม่น้อยในครั้งนั้นเช่นกัน
อย่าคิดว่าลูกแพ้ ตั้งแต่ยังไม่ทีออฟหลุมแรก..และ สมควรตัวลีบ เมื่อพบว่า ยังมีคนที่ใจใหญ่ สมควรเคารพนับถือ อย่าได้คิดแต่เพียงมุมมองของตนฝ่ายเดียว
คิดถึงเรื่องเก่า ก็เอามารำลึก เล่าครับ
ยอดทอง