ความรัก คือ สายใย (5)
ความรัก คือ สายใย (5)
เช้าของวันใหม่ จุกออกไปเก็บดอกบัวเพื่อส่งขายที่ตลาดเช่นเคย แต่วันนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง มีมาลัยดอกมะลิหอมฝีมือของเปียเพิ่มขึ้นมาอีกอย่าง ขนาดยังไม่ได้เปิดออกจากใบตองที่เปียบรรจุไว้กลิ่นของดอกมะลิยังหอมกรุ่น จนทำให้จุกรู้สึกได้ จุกรำพึงในใจขณะพายเรือมาเรื่อยๆเรียบลำคลอง…เปียร้อยมาลัยได้สวยงดงามเหมือนที่ยายเคยสอนไว้ทุกอย่างไม่มีผิดเพี้ยน เราจำได้ว่ายายสอนเปียไว้นานแล้ว…และท้องลูกเราคนนี้เปียชอบเก็บดอกไม้มาลอยน้ำปักแจกันทุกซอกมุมของบ้าน เราคงจะได้ลูกสาวจริงๆอย่างที่ยายมาบอกเปียไว้เป็นแน่แท้ ว่าแล้ว…จุกก็อมยิ้มอย่างมีความสุข อีกไม่นานพ่อก็จะได้พบหน้าเจ้าแล้ว ถ้าเจ้าเป็นลูกสาวเจ้าก็จะชื่อ ใบบัว อย่างที่แม่เจ้าเขาฝันไว้
ถึงตลาดพอดี…จุกกุลีกุจอเอาดอกบัวส่ง เจ้หมวยเจ้าประจำ และเอ่ยขึ้นกับเจ้หมวยว่า
“เจ้หมวย วันนี้ผมมีอะไรพิเศษมาเสนอเจ้ด้วย”
‘อะไรของเอ็งว่ะเจ้าจุก”
“เปิดดูซิเจ้”
เจ้หมวยค่อยๆเปิดห่อใบตองออก “โห…ฝีมือใครน่ะจุกสวยยังกะชาววังเขาทำกัน มะลิก็หอมกรุ่นเชียว”
จุกยิ้มเห็นฟันขาว “ฝีมือเมียฉันเองครับเจ้หมวย” พร้อมกับยืดอกรับคำชม
“สวยๆอย่างนี้จุกจะคิดราคาเจ้ยังไงล่ะ”
“สุดแต่เจ้หมวยจะให้ครับ เมียฉันเขาท้องอยู่ก็เลยหาอะไรทำแก้เหงา และเขาก็ชอบด้วยแหละงานพวกนี้”
“ดีๆยังงั้นฝีมือแบบนี้ ร้อยมาส่งเจ้ได้ตลอดเพราะมีหลายคนทั้งทางฝั่งโน้นมาถามถึงมาลัยออกบ่อยๆ”
“ครับ…ผมจะบอกเมียผมให้ เธอคงดีใจที่เจ้หมวยชอบมาลัยของเธอ”
“จะเอาดอกพุดด้วยก็ได้นะ เจ้หมวยรับหมด สวยจริงๆฝีมือเหมือนชาววังจริงๆนะเนี่ย ใครสอนเมียเอ็งล่ะ”
“คุณยายพริ้ม ที่เลี้ยงพวกฉันมาแหละเจ้”
“อ๋อ…ยายพริ้มแก่เป็นผู้ดีเก่ามาจากวังเก่าฝั่งกระโน้น มิน่าเล่าเมียเอ็งถึงได้รับการถ่ายทอดเป็นอย่างดี เอาล่ะๆเจ้ชอบมากนะ บอกเมียเอ็งด้วย พร้อมกันนั้นแกก็ยื่นเงินให้ปึกหนึ่งกับจุก”
“ขอบคุณครับเจ้หมวย งั้นผมลาเลยนะครับ”
จุกรีบพายเรือเรียบคลองออกจากตลาด ใจเขาอิ่มเอมกับคำชมของเจ้หมวย เขาเร่งฝีพายเพื่อจะให้ถึงบ้านเร็วๆเพราะใจเขาจดจ่ออยู่กับเปียและลุกตลอดเวลา ในใจก็นึกคำพูดคำชมเพื่อมาบอกเล่าต่อให้เมียรักชื่นใจในมาลัยมะลิที่เปียบรรจงร้อยสมกับที่เปียตั้งใจจริงๆ เงินที่ขายมาลัยนี้จะเก็บไว้ให้ลูกใบบัว และทำบุญท่าจะดี…จุกยิ้มกับตัวเอง เรือก็ถึงฝั่งพอดี จุกเดินเข้าบ้านแบบไม่ส่งเสียง อยากให้เปียแปลกใจกว่าทุกครั้งที่จุกต้องตะโกนบอก พอใกล้ถึงเรือนไทยหลังเก่า เขาก็ย่องขึ้นเรือนอย่างระมัดระวัง ภาพที่จุกมองและเห็นต้องหยุดชะงักและยืนแอบดู
“แก้วนี่ฉันถักถุงมือสีชมพูนี้ให้ลูกสวยมั้ย”
“สวยเจ้าค่ะคุณเปีย”
“มาแก้วฉันจะสอนเธอจะได้ทำเป็น เราเป็นผู้หญิงงานฝีมือติดตัวไว้นะ ฉันได้จากยาย ยายสอนฉันทุกอย่างแม้เรื่องทำขนมชาววัง”
“ดีเจ้าค่ะคุณเปีย”
เปียอธิบายการถักถุงมือเด็กกับแก้วด้วยท่าทางที่คล่องแคล่ว
จุกภูมิใจในตัวเมียรักเป็นอย่างยิ่ง ทั้งสองคนที่สาละวนกับการถักถุงมือถุงเท้าไม่ได้สนใจว่าใครย่องขึ้นบ้านมาพักใหญ่ จนจุกต้องกระแอม ไอ…เบาๆ ทั้งเปียและแก้วถึงได้ร้องพร้อมกัน
“เอ้า…จุก”
“เอ้าคุณจุก มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” เสียงเปียและแก้วเอ่ยออกมาพร้อมกัน
“มาตั้งนานแล้วก็สองสาวไม่ได้สนใจอะไรเลย เป็นขโมยก็ขโมยของจนหมดบ้านแล้ว” จุกพูดพร้อมกับหัวเราะไปด้วย และเดินเข้าไปหาเปียพร้อมกับยื่นเงินให้ปึกใหญ่
“นี่ไงรางวัลสำหรับคนเก่ง”
เปียยิ้มละมัย “เก็บไว้ให้ลูกนะจุกนะ”
“ได้เลยเปีย”
“จุก…สวยมั้ย?เตรียมไว้ให้ลูก แก้วกำลังจะถักเป็นแล้วนะ” เปียหันไปทางแก้ว
“สวยซิ เปียนี่ได้แบบฉบับยายมาเลยทำได้ตั้งหลายอย่าง อ้อ…วันนี้เจ้หมวยชื่นชมมาลัยของเปีย ชมแล้วชมอีกรับคำชมไปด้วยนะ”
“ขอบใจจ้า อย่างนี้ร้อยสุดฝีมือเลย ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว วันนี้ฝีมือเจ้าแก้วเขา ปลาน้ำโขงแดดเดียวเชียวนะจุก”
“แก้วเธอทำได้ด้วยเหรอนี่”
“คุณเปียสอนเจ้าค่ะ”
เสียงเรือพายมาใกล้บ้านเรา “แก้วไปดูซิใครมา”
“ได้เจ้าค่ะ มาพบใครเจ้าค่ะ”
“บ้านคุณจุกใช่ไหมครับ”
“ใช่จ๊ะ”
“ช่วยเรียนคุณจุกด้วยว่า เจ้หมวยบอกว่าพรุ่งนี้ส่งมาลัยเพิ่มอีก ร้อยได้เท่าไหร่ รับซื้อหมด”
“เจ้าค่ะ แล้วหนูจะเรียนคุณจุกให้เจ้าค่ะ”
“ขอบใจมากครับ”
แก้วรีบวิ่งอย่างรวดเร็ว ยังกระหืดกระหอบอยู่ แต่ด้วยความดีใจ
“คุณจุก คุณเปีย เจ้าค่ะ”
“เอ้า…หยุดหายใจสบายๆก่อนก็ได้ค่อยเล่า” เปียขำท่าทางของแก้ว
“คือ…คือ…”ถอนหายใจเฮือก
“คือ เจ้อะไรน๊า…ที่ตลาด ที่คุณจุกไปส่งดอกไม้น่ะ เขาสั่งมาลัยเพิ่มอีกจ๊ะ”
“จริงเหรอ? ดีใจจังจุก แก้ว ได้ๆมะลิเราเยอะมากเดี๋ยวตะวันคล้อยเราไปเก็บมะลิกันแก้ว”
จุกยิ้มด้วยความชื่นใจ แล้วพูดว่าเปีย… “มะลิของเปีย เจ้หมวยแกเรียกว่ามาลัยชาววังเชียวนะ แกยังพูดถึงยายของเราด้วยว่า “ยายพริ้มแกเป็นชาววังเก่าของฝั่งกระโน้น”
เปียนิ่ง…และพูดว่า “คิดถึงยายจังเลยจุก ยายอยู่คงดีใจในสิ่งที่ยายสอนไว้ เป็นสัมมาอาชีพให้เราได้ยังชีพอยู่ทุกวันนี้”
แก้วเอ่ยถาม “สัมมาอาชีพ คืออะไรเจ้าค่ะ”
“สัมมาอาชีพ คือการประกอบอาชีพเพื่อเลี้ยงชีวิตให้ถูกต้อง เว้นจากการประกอบมิจฉาชีพ คืออาชีพทุจริตที่ผิดศีลธรรม หรือกฎหมายของบ้านเมือง แล้วพยายามประกอบอาชีพที่สุจริตให้เป็นปกตินิสัย การดำรงชีพที่ไม่สร้างหนี้ ไม่ทำกำไร แต่เป็นชีวิตที่ยังประโยชน์ได้ เพราะพ้นมิจฉาชีพ 5 ประการ การโกง การล่อลวง การตลบตะแลง การมอบตนในทางที่ผิด การเอาลาภต่อลาภ ชีวิตเราจะมีความสงบสุขอยู่ในสังคมได้เพราะอำนาจความซื่อสัตย์สุจริตนั่นเอง”
“ค่ะคุณเปีย”
“ฉันได้ทุกอย่างจากยายที่พร่ำสอนฉัน ฉันจะสอนให้เธอด้วยนะแก้ว เธอจะได้มีวิชาติดตัว”
“ขอบคุณเจ้าค่ะที่เมตตาแก้ว”
“เย็นนี้เราเดินไปริมโขงกันอีกนะทั้งสองคน จุกอยากรู้ว่าพระอาทิตย์เย็นนี้จะสื่ออะไรให้เรารู้อีก ที่สำคัญเราไปกินข้าวเย็นริมโขงกัน แก้วเธอรู้มั้ย วันนี้เป็นวันสำคัญอะไร”
“ไม่รู้เจ้าค่ะ”
จุกเดินเข้าไปโอบกอดเมียรัก…. “ก็วันนี้เป็นวันที่เปียกับจุกพบกันครั้งแรกไง!”
“โห…จุกจำได้ด้วยเหรอนี่” เปียหันไปทางแก้วแล้วพูดว่า “สามีฉันนี่น่ารักจริงๆนะแก้ว”
มณีจันทร์ฉาย